ระวัง "พวกที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นจำพวก
ปลาดิบซูชิปลาดิบ..ระวังให้ดี"
จากแพทย์ญี่ปุ่นซึ่งอ้างว่าได้ทำการผ่าตัดสมองของผู้ป่วยรายหนึ่งเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ผู้ป่วยคนนี้ ชื่อ โชตะ ฟูจิวารา อยู่ในเมืองกิฟูประเทศญี่ปุ่นเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาอย่างต่อเนื่องด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และต่อเนื่องมานับกว่า 3 ปีจากการสอบประวัติในเบื้องต้น พบว่า "คนไข้เป็นนักกินปลาดิบตัวยง" ไม่ว่าจะเป็นการกินแบบมื้อหลักหรือมื้อรองกระทั่งมื้อทานเล่นคนไข้รายนี้
กินปลาดิบไปก็ปวดหัวแม้จะพยายามหายากินเองหรือไปหาหมอพบแพทย์ก็ยังไม่หายปวดหัวเสียทีและยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่อาหารปวดหัวข้างเดียวที่เรียกกันว่าไมเกรนหลังสุดคุณหมอที่รับการรักษาชัก จะงงหนักเข้าไปทุกทีไม่ว่าจะให้ยาชนิดไหนแบบใดก็ไม่หายซะที ?
กินปลาดิบไปก็ปวดหัวแม้จะพยายามหายากินเองหรือไปหาหมอพบแพทย์ก็ยังไม่หายปวดหัวเสียทีและยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่อาหารปวดหัวข้างเดียวที่เรียกกันว่าไมเกรนหลังสุดคุณหมอที่รับการรักษาชัก จะงงหนักเข้าไปทุกทีไม่ว่าจะให้ยาชนิดไหนแบบใดก็ไม่หายซะที ?
? ? ? ? ? ? ? ? ? ?...
: จึงจับนายฟูจิวาราเข้าไปเอ็กซ์เรย์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวแต่ก็ไม่เห็นผลอะไรได้ชัดเจน
: คุณหมอก็ยิ่งงงหนักเข้าไปอีกอาจด้วยไหวพริบของคุณหมอเองไปสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวอะไรแบบขะหยุกขะหยิกอยู่
ที่ผิวหนังบนศีรษะของคนไข้นั่นแหละที่ทำให้คุณหมอจับคุณฟูจิวาราเข้าห้องผ่าตัดให้ ยาสลบแล้วก็ผ่ากะโหลกตรวจสอบตอนนี้ที่เกือบทำให้คุณหมอพลอยสลบตามคุณฟูจิวาราไปด้วยเพราะไปเจอกับเจ้าพยาธิกองเบ้อเริ่มคลานกันยั้วเย้ยอยู่ตามเนื้อสมองพร้อมกับ ไข่ที่เกลื่อนเต็มไปหมด (ดังภาพ)
เรื่องนี้จะยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจนจากหน่วยงานทางการแพทย์ของญี่ปุ่นแต่ภาพที่คณะแพทย์ได้ทำการถ่ายทำไว้พร้อมกับส่ง แพทย์ในเมืองไทยทำให้ชวนวิตกกับนักกินปลาดิบชาวไทยยิ่งนักเพราะอาการกับภาพถ่ายที่ปรากฎนี้ไม่ได้ต่างกับที่เคยพบจากคนไข้จำนวนมากในเขตภาคอิสานซึ่งมักนิยมรับทาน
"ปลาดิบ ปลาร้า หรืออาหารดิบอื่นๆซึ่งมีผลที่ไม่แตกต่างกันก็ยิ่งน่าวิตกหนักขึ้นไปอีก"